ศูนย์ดูแลมะเร็งแบบองค์รวม

อาดิลคลินิกมีแนวทางในการบำบัดมะเร็งแบบองค์รวมดังนี้

1. รู้จักมะเร็ง

2. รู้จักอาหารและพฤติกรรมประจำวัน

3. การตรวจหาความบกพร่องระดับเซลล์และภูมิแพ้แอบแฝง

4. การใช้อาหารเป็นยาเฉพาะบุคคล

5. การใช้สารสกัดเข้มข้นจากสารธรรมชาติ

6. การใช้ออกซิเจนในการบำบัด

7. การใช้โอโซนบริสุทธิ์ในการบำบัด

8. โปรแกรมเฉพาะบุคคล

1. มารู้จักมะเร็ง

เอาชนะมะเร็งด้วยวิถีธรรมชาติ

มะเร็งคืออะไร?

มะเร็งเป็นโรคเรื้อรังของเซลล์ที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย ที่เกิดจากการสะสมสารพิษไว้มากเกินไปในร่างกาย เช่นมะเร็งเกิดจากการที่เรารับประทานอาหารผิดส่วนที่มีแต่ไขมัน โปรตีนและน้ำตาลมากไป หรืออาหารที่ปนเปื้อนสารพิษ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพทางเคมี กลายเป็นอนุมูลอิสระ คอยแย่งชิงอาหาร เข้าทำลายเซลล์นิวเคลียสให้เสื่อมลง

เอนไซม์ที่สำคัญของมะเร็ง 3 ประการดังนี้

1. เอนไซม์โปรตีเอส ใช้ย่อยสลายโปรตีนในร่างกาย เพื่อการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

2. เอนไซม์ไฮยาลูโรนีเดส ใช้ย่อยสลายกาวธรรมชาติและสารไฮยาลีนให้เสื่อมสภาพ

3. เอนไซม์อะมิโนเปปติเดส ใช้ย่อยสลายสารประกอบของโปรตีน

สาเหตุทีทำให้มะเร็งตาย

     1.  แก่ตายตามธรรมชาติ

     2.  ถูกทำลายโดยระบบภูมิต้านทานจากเม็ดเลือดขาว
     3.  ขาดออกซิเจนและอาหาร ได้แก่จำพวกโปรตีน ไขมัน น้ำตาล เกลือโซเดียม
     4.  กำจัดเอนไซม์ของมะเร็งให้หมดไป

การทำให้เซลล์มะเร็งหยุดเจริญเติบโต

1. หยุดรับประทานอาหารพวกโปรตีน ไขมัน น้ำตาลและเกลืออย่างเด็ดขาด
2. งดอาหารหวานทุกชนิด
3. งดอาหารหมักดอง ของเค็ม ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส
4. ให้รับประทานอาหารรสจืดอย่างเดียว ข้าวกล้อง น้ำข้าวบริสุทธิ์ ผลไม้สดๆ เช่นกล้วยน้ำว้าสุก ฝรั่ง ชมพู่ มะละกอสุก และรับประทานน้ำคั้นจากผลสด
5. หยุดรับประทานพวกก่อมะเร็งทุกชนิดเช่น เหล้า บุหรี่ ชา กาแฟ น้ำอัดลม อาหารกระป๋อง ของมึนเมา ขนมเค้ก คุกกี้ ขนมปังขัดขาว ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน อาหารจานด่วน
6. สวนทวารเพื่อขับสารพิษที่มีในร่างกาย
7. ดื่มนำผักสดคั้น 100 cc ทุกวัน วันละ 3 เวลา ตอนท้องว่าง
8. ออกกำลังกาย 30 นาที
9. รับประทานวิตามินซี 5000 mg ต่อวัน   มื้อเช้า 1500mg เที่ยว 1500mg เย็น 2000 mg
10. รับประทานวิตามินเอ 25,000 I.U.

 การรับประทานอาหารเมื่อมะเร็งเริ่มฝ่อ

1.    ดื่มน้ำผักคั้นให้มาก วันละ 8 แก้ว แก้วละ 100-200 cc.

2.    รับประทานยาเอนไซม์อะไมเลสทีทำจากข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์วันละ 4 เม็ด เช้า เที่ยง เย็น ก่อนนอน โดยรับประทาน 4 วัน เว้น 1 วัน หรือรับประทาน 5 วันเว้น 2 วัน

การทำลายสารพิษในร่างกาย

1.    สวนล้างลำไส้ด้วยน้ำอัลคาไลน์

2.    แช่น้ำร้อนอุณหภูมิ 40 องศา

3.    อดอาหาร

การทำลายมะเร็ง

1.    ไม่รับประทานสารก่อมะเร็งอีก

2.    หยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

3.    หยุดยั้งการขยายตัวของเอนไซม์มะเร็ง

4.    บำรุงรักษาตับ

5.    ล้างสารพิษ

6.    กำจัดอนุมูลอิสระ

7.    เพิ่มภูมิต้านทาน

8.    บำรุงร่างกายให้แข็งแรง

9.    แก้ไขข้อบกพร่องของร่างกาย

ขั้นตอนการทำลายมะเร็ง

1. อดอาหาร 30 วัน
2. เสริมสร้างความต้านทาน
3. ปรับเปลี่ยนอาหาร
4. ปรับความสมดุลในร่างกาย
5. เคร่งครัดต่อการกินอาหาร
6. บำรุงรักษาตับ

บรรญัติ 10 ประการรักษามะเร็ง

1. ไม่รับประทานเนื้อหมู ไก่ เป็ด นก เนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมถึงน้ำแกงด้วย
2. รับประทานผักสดและน้ำคั้นผักสด วันละ 3 เวลาอย่างต่อเนื่อง 
3. สวนทวารวันละ 2 ครั้ง
4. ออกกำลังกายให้ได้เหงื่อวันละ 30 นาที
5. ทำสมาธิ หรือละหมาดอย่างคุซุกไม่ใจร้อน
6. ทานยา anti-oxidant  ยาฆ่าเอนไซม์มะเร็ง
7. พักผ่อนอย่างเพียงพอ
8. นวดร่างกาย
9. แช่น้ำอุ่น
10. รับประทานน้ำข้าวบริสุทธิ์ทุกวัน

 2. รู้จักอาหาร

รู้จักการเลือกอาหารที่เป็นกรดด่าง อาหารประเภทฤทธิ์ร้อนหรือเย็น โดยการเลือกอาหารให้ถูกชนิดด้วยปริมาณฤทธิ์เย็น หรืออาหารด่างมากกว่า 80% และอาหารฤทธิ์ร้อนหรืออาหารชนิดกรดน้อยกว่า 20%

(รายละเอียดอาหารสามารถดูได้จากวิดีโอด้านบน)

 

น้ำอัลคาไลน์ช่วยรักษามะเร็ง

อ็อตโต วอร์เบิร์ก (Otto Warburge) ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาในปี พ.ศ. 2474 เป็นผู้ค้นพบสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งว่า ร้อยละ 99 เกิดจากร่างกายมีสภาวะเป็นกรด มากกว่าสภาวะปกติถึงพันเท่า และสามารถเจริญเติบโตได้ดีในภาวะขาดออกซิเจน เซลล์ปรกติจะมีค่า พีเอช (pH) อยู่ที่ 7.35 เมื่อเซลล์มะเร็งมีค่าพีเอชสูงกว่า 7.5 จะฝ่อตาย และหากสูง ถึง 8 จะตายทันที จากการวัดค่าพีเอชน้ำลายของผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งพบว่ามีค่า พีเอช ต่ำกว่า 4.5

ในปี 2511 ดร. ฮิโรมิ ชินย่า (Hiromi Shinya) ได้ใช้น้ำด่าง (Alkaline) ที่ผลิตจากเครื่องไฟฟ้า รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในลำไส้ และตรวจสอบโดยกล้องส่องลำไส้ พบว่าสามารถรักษามะเร็งได้
ในปี พ.ศ. 2547 มีการนำเสนอการใช้น้ำด่าง (Alkaline) ในการป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง ที่มหาวิทยาลัยคิวชู (Kyushu Institute of Technology) ตั้งอยู่ในจังหวัดฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น

  

3. ตรวจการแพ้อาหารแบบแอบแฝง

การตรวจหาความบกพร่องระดับเซลล์และการแพ้อาหารแบบแอบแฝง (Ig G) สามารถทราบความบกพร่องระดับเซลล์ และทราบชนิดของอาหารที่แพ้แอบแฝงได้ทันที

 4. การใช้สารสกัดจากธรรมชาติ

 1. ต้านอาการอักเสบ
2. เพิ่มเทโลเมียร์์ 
3. เพิ่มออกซิเจน

4. ต้านเชื้อแบคทีเรีย

5. เสริมภูมิต้านทาน ป้องกันเป็นภูมิแพ้

6. ต้านเซลล์มะเร็ง

 5. การใช้โอโซนบริสุทธิ์

 (ดูรายละเอียดที่การใช้โอโซนบำบัด)

 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

อาดิลคลินิก

Email: adilclinic@hotmail.com
 

เวลาทำการ

09:00 – 16:00 น. ทุกวันเว้นวันศุกร์