มูลเหตุของโรค
มูลเหตุหรือต้นเหตุของโรคนั้น
ตำราแพทย์โบราณได้ว่าไว้ 8 ประการดังนี้
1. อาหาร
2. อิริยาบถ
3. ความร้อน ความเย็น
4. อดนอน อดข้าว อดน้ำ
5. กลั้นอุจจาระ กลั้นปัสสาวะ
6. ทำงานเกินกำลัง
7. ความโศกเศร้าเสียใจ
8. โทสะมาก
อาหาร
1.
ชนิดของอาหารและการเลือกอาหารที่มีคุณภาพ
เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ
สะอาด และถูกสุขลักษณะ
- ไม่บริโภคอาหารที่บูดเน่า
- ของหมักดอง
- อาหารไม่สุก
- อาหารขยะ
2.
วิธีการรับประทานอาหาร
- รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
- รับประทานอาหารไม่มากเกินไป
และไม่น้อยเกินไป
- ระหว่างรับประทานอาหารไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป
3.
วิธีการปรุงอาหาร
- ต้องปรุงอาหารสด
สะอาด
- ไม่ใช้เตาไมโครเวฟ
- ไม่ใช้วิธีปิ้ง
ย่าง เผา
อิริยาบถ
อิริยาบถหรือกริยาท่าทางต่างๆ เช่น
นั่ง นอน ยืน เดิน ให้เหมาะสม
-
นั่งมากเกิน
4 ชั่วโมง จะทำให้ยีนที่ควบคุมปริมาณน้ำตาลและไขมันในร่างกายเริ่มหยุดการทำงาน
-
นอนมากเกินไป
ทำให้ร่างกายไม่กระปรี้กระเปร่า
-
ยืนมากเกินไป
ทำให้เส้นเลือดขอดได้
-
เดินมากเกินไป
ทำให้ร่างกายเมื่อยล้า
ความร้อน ความเย็น
1. ความร้อน
ความร้อนมากเกินไปทำให้ร่างกายเสียน้ำและเสียเกลือแร่ได้ง่าย
2. น้ำแข็ง
ทำให้เซลล์ในร่างกายหดตัว
อดนอน อดข้าว อดน้ำ
1. อดนอน ผลเสียของการอดนอนมีดังนี้
- ระบบภูมิคุ้มกันลดลง
- ความจำแย่ลง เพราะฮิปโปแคมปัส ที่ทำหน้าที่ถ่ายโอนสิ่งที่เรียนรู้ในแต่ละวัน
จะทำงานตอนเราหลับเท่านั้น
- มีน้ำตาลในเลือดมากขึ้น
- อ้วนขึ้น
- หิวบ่อยขึ้น
- เครียด
- แก่เร็ว
2. อดข้าว อดอาหารมากเกินไป ขาดสารอาหาร
เป็นโรคเช่น มารัสมัส และควาชิโอก่อ
3. อดน้ำ ทำให้เลือดข้น
จับตัวเป็นก้อนได้ง่ายและมีโอกาสเป็นหัวใจวายได้
กลั้นอุจจาระ
กลั้นปัสสาวะ
- การกลั้นอุจจาระ
ทำให้ของเสียย้อนกลั้นเข้ากระแสเลือดและระบบอื่นๆในร่างกาย
- การกลั้นปัสสาวะ
ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดกระเพาะหย่อนยาน และติดเชื้อได้ง่าย
ทำงานเกินกำลัง
ทำงานที่หนักเกินไป ทำให้อวัยวะทำงานมาก
เหนื่อยล้า ระบบร่างกายทรุดโทรม มีของเสียสะสมในร่างกายมากเช่น
กรดแลคติกในกล้ามเนื้อ
ความโศกเศร้าเสียใจ
อารมณ์ที่โศกเศร้า
มีผลต่อจิตใจและจะกระทบกับระบบร่างกายโดยรวม
โทสะมาก
อารมณ์โกรธจะหลั่งสารความทุกข์
ไม่สามารถควบคุมจิตใจได้ การควบคุมระบบประสาทซิมพาเธติกและพาราซิมพาเธติกไม่สมดุล